วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2559
วันพุธที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2559
แว่นตาชีวิต
ใครรวยกว่าใคร ลองพิจารณาดู…
มหาเศรษฐีผู้หนึ่งสุดแสนจะภาคภูมิใจ ที่ลูกชายวัยห้าขวบของเขา ได้เข้าเรียนในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงมาก
ซึ่งต้องเป็นระดับเศรษฐีอย่างพวกเขาจึงจะมีปัญญาส่งลูกหลานเข้าเรียนที่โรงเรียนนี้ได้ โดยส่วนตัวเขาเองก็ต้องการสอนให้ลูกชายรู้จักกับชีวิตจริงในสังคม ควบคู่ไปกับการสอนวิชาการในโรงเรียน
ในวันหยุดเขาจะตระเวนพาลูกชายของเขาท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ต่อมาวันหนึ่ง เขาก็อยากรสอนเรื่องความยากจนให้กับลูกชาย เพราะเขามีความเชื่อว่า
ลูกชายของเขาคงยากที่จะต้องเจอ
เขาได้พาลูกชายไปเยี่ยมครอบครัวชาวนาในต่างจังหวัดครอบครัวหนึ่ง
และให้พักอยู่กับชาวนาเพื่อเรียนรู้ความเป็นอยู่ของคนยากจนเป็นเวลา 1 วัน 1 คืน
หลังจากนั้นลูกชายก็ได้กลับถึงคฤหาสน์ของเขา
เศรษฐีก็ทดสอบว่าลูกชายได้อะไรมาบ้างจากการไปพักแรมกับชาวนาผู้ยากจน ลูกชายตอบคำถามผู้เป็นพ่อว่า เขาขอบคุณเป็นอย่างมากที่ได้พาเขาไปพบกับชาวนาและพักแรมที่นั่น
ซึ่งทำให้เขาได้พบว่า….
….ชาวนามีที่ทำงานเป็นท้องนาที่กว้างใหญ่
ในขณะที่พ่อมีเพียงห้องสี่เหลี่ยมที่แม้จะกว้าง แต่ก็ยังน้อยกว่าท้องทำงานของชาวนา
….อาหารที่ชาวนารับประทาน
สามารถหาได้ตลอดเวลารอบๆ บริเวณบ้านโดยไม่ต้องซื้อ ในขณะที่บ้านของเรา
มีเพียงตู้เย็นเท่านั้นที่เป็นที่เก็บอาหาร
….ตอนรับประทานอาหารก็มีเพื่อนคุยอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
พ่อแม่ลูก ในขณะที่ตัวเองก็ต้องนั่งทานอาหารกับโต๊ะอาหาร ที่ยาวเกือบสิบเมตร
แต่มีเก้าอี้ว่างเปล่าทั้งสองด้าน
…ลูกชาวนาเวลาที่ซ้อนท้ายจักรยานพ่อเขา
ต้องกอดเอวพ่อเพื่อไม่ตกจากจักรยาน
แต่เขาเองต้องนั่งในรถที่ใหญ่โตอยู่ด้นหลังเพียงลำพัง โดยมีคนขับรถพาไป
…ชาวนามีแสงดาว
แสงจันทร์เป็นโคมไฟส่องสว่าง ตลอดเวลาในตอนกลางคืน โดยไม่ขาดแคลน
แต่เขาก็มีเพียงแสงจากโคมไฟ ที่ต้องซื้อด้วยเงิน
….ชาวนามีรั้วบ้านเป็นแม่น้ำและภูเขาที่กว้างสุดลูกหูลูกตา
แต่เขาเองกลับมีเพียงแค่กำแพงบล๊อคในพื้นที่ไม่กี่ไร่ ….ลูกชาวนามีเพื่อนเล่นเป็นจิ้งหรีด
หิ่งห้อยนับร้อยนับพัน แต่เขาเองกลับไม่มีใครเลย
…. ผู้เป็นพ่อฟังแล้วเงียบพูดอะไรไม่ออก
ลูกชายสบตาพ่อแล้วกล่าวต่อว่า….
“ขอบคุณมากครับพ่อ
ที่ช่วยให้ผมได้เรียนรู้ว่าเราจนขนาดไหน” คุณเห็นด้วยไหมว่า “แว่นตาชีวิต”
เป็นสิ่งที่อัศจรรย์ยิ่งนัก คิดดูสิว่าโลกจะเปลี่ยนไปสักเพียงใด
หากเราทุกคนเปลี่ยนมาเป็นพอใจในสิ่งที่เรามีตามความเหมาะสม
แทนที่จะดิ้นรนไขว่คว้าเพื่อสิ่งที่เรายังไม่ได้มา จงพอใจในสิ่งที่เรามีอยู่
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เพื่อน” ชีวิตหนึ่งของเรานั้นสั้นนัก
จงแบ่งปันความรู้สึกที่ดีๆให้เพื่อนของเรา เหมือนที่เราอยากได้
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)